วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เขาสก เขื่อนเชี่ยวหลาน



เขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)  จังหวัดสุราฎร์ธานี  ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน กลางสายน้ำของเขื่อนเชียวหลาน  บรรยากาศสวยงามจนได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ภาพภูเขารายล้อมเขื่อน นอนแพพายเรือคายัคและกิจกรรมต่างๆ  รวมทั้งภาพไอหมอกกระทบกับแสงแดดลอยเหนือน้ำในยามเช้าเป็น ทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูดใจและสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย เขื่อนเชี่ยวหลาสามารถ ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป


อุทยานแห่งชาติเขาสก จะแบ่งจุดท่องเที่ยวออกเป็น 2 ส่วน คือ เขาสกส่วนของเขื่อนเชี่ยวหลานซึ่งนักท่องเที่ยวชม วิวทิวทัศน์ เหนือเขื่อน จากนั้น ลงเรือเพื่อไปนอนแพชมเขาสามเกลอ(ภูเขาหินกลางน้ำ)  ซึ่งเรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทย เที่ยวถ้ำประการัง ถ้ำน้ำทะลุ กับ เขาสกส่วนที่เป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกซึ่งเป็นจุดที่ไปชม น้ำตก เดินป่า และ ชมบัวผุด โดยทั้งสองที่อยู่ห่างกันประมาณ 60 ก.ม. โปรแกรมที่เป็นที่นิยมซึ่งจะถูกบรรจุไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งจะคล้ายๆกันก็คือ เที่ยวเขาสก ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน นอนพักบนแพในเขื่อเชี่ยวหลานเที่ยวตามจุดต่างๆ หรือ 3 วัน 2 คืน  โดยวันแรกวันแรกชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อน ลงเรือนอนแพ เที่ยวชมถ้าปะการัง ชมเขาสามเกลอ ซึ่งจุดนี่ค่ะ ที่จะเรียกว่า กุ้ยหลินเมืองไทย นอนแพ เล่นน้ำ พายเรือคายัค  ส่วนวันที่ 2 ก็กลับขึ้นมายังฝั่งเขื่อนเชี่ยวหลาน จากนั้นก็ไปเที่ยวยัง เขาสก ส่วนที่เป็นอุทยาน เดินป่า ชมดอกบัวผุด ซึ่งต้องเดินเข้าไปประมาณ 2 กม. หรือบางทีก็อาจ 5 กม. ดอกบัวผุดจะบานในช่วงเดือน พ.ย. มี.ค.

อ้างอิงhttp://www.paiduaykan.com/province/south/suratthani/khaosok.html


วัดพระใหญ่ (เกาะสมุย)




                     วัดพระใหญ่สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2515 ทางปลายสุดด้านเหนือของเกาะใกล้กับหาดบ่อผุด ซึ่งเป็นที่เคารพสักระของพุทธศาสนิกชนชาวสมุยจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ที่ประดิษฐานไว้กลางแจ้งบนยอดเขา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกันมาก เมื่อมาเที่ยวเกาะสมุยแล้วถ้าไม่ได้มากราบไหว้นมัสการพระใหญ่ เหมือนมาไม่ถึงเกาะสมุย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้นมัสการพระใหญ่เพื่อเป็นศิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว แล้วสามารถชมวิวสวยๆ ของชายหาดบางรักษ์ได้อย่างชัดเจนสวยงามมาก และพร้อมกับแวะเลือกซื้อเลือกชมของที่ระลึกสินค้าพื้นเมืองแปลกๆมากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน

อ้างอิงhttp://www.chillpainai.com/travel/26/
ถ้ำขมิ้น

ถ้ำขมิ้นเป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถ้ำเหม็น  ถ้ำขมิ้นเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นถ้ำหินปูนที่มีขนาดกว้างใหญ่มาก ภายในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก การเดินชมภายในถ้ำขมิ้นนั้นภายในถ้ำได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,250 เมตร เดิมถ้ำขมิ้นเคยเป็นถ้ำที่ให้สัมปทานเก็บมูลค้างคาวจึงทำให้ภายในถ้ำนอกจากจะชื่นชมความงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกๆต่างๆในโถงถ้ำขนาดใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถพบร่อยรอยการสัมปทานภายในถ้ำด้วย โดยจุดเด่นที่เด่นที่สุดคือ ซากรถจิ๊ปที่ถูกประกอบขึ้นภายในถ้ำ



ลักษณะทางธรณีวิทยาของถ้ำขมิ้นเป็นถ้ำประเภท Solution Cave ที่เกิดในภูเขาหินคาร์บอเนตซัลเฟต โดยเกิดจากน้ำฝนและน้ำใต้ดิน ที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมตัวกับไอออนของน้ำทำปฏิกิริยาเป็นกรดคาร์บอนิกอย่างอ่อน ไหลผ่านตามรอยแตกของชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน โดยจะละลายหินที่มีส่วนประกอบของแร่แคลไซด์ หรือแคลเชียมคาร์บอเนตให้กลายเป็นรอยแตกหรือโพรงกว้าง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกจะกว้างขึ้นจนกลายเป็นถ้ำในที่สุด

อ้างอิงhttp://www.zthailand.com/place/tham-kamin-surat-thani/

เกาะสมุย



เกาะสมุย เป็นเกาะที่อยู่กลางอ่าวไทยโดยเป็นอำเภอๆ หนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งปลูกมะพร้าว แต่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นสถานที่ตากอากาศที่มีร้านค้า โรงแรม และสถานบันเทิงมากมาย โดยเกาะสมุยนั้นมีเนื้อที่ทั้งหมด 247 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบแล้วล้อมรอบด้วยภูเขา ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเขตร้อน มี 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดูหนาวเริ่มเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เป็นช่วงที่มีลมมรสุม และฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งคลื่นลมสงบ
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบนเกาะสมุย

          หาดเฉวง เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะสมุย มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร หาดทรายมีลักษณะขาวสะอาดและมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย อีกหาดที่น่าสนใจก็คือ หาดละไม เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงรองลงมาจากหาดเฉวงโดยจะมีระยะทางสั้นกว่า แต่น้ำทะเลจะใสมากจนมองเห็นปลาว่ายอยู่ในน้ำจึงเหมาะสำหรับการว่ายน้ำ

           หาดตลิ่งงาม เป็นหาดที่อยู่ถัดไปในทางทิศใต้ของท่าเรือเฟอร์รี่ เป็นหาดขึ้นชื่อในการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ เนื่องจากด้านหน้าของหาดเป็นที่ตั้งของเกาะสี่เกาะห้า ในเวลาที่ดวงอาทิตย์ตก จะสามารถมองเห็นภาพของดวงอาทิตย์ตกลงระหว่างกลางเกาะทั้งสอง และจมหายไปในทะเลเป็นภาพที่สวยงามมาก ในช่วงเย็นหาดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงกลางวันยังสามารถเช่าเหมาเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะสี่-เกาะห้า ดำน้ำชมปะการัง หรือจะเลือกพักผ่อนด้วยการตกปลาก็ยังได้




           หาดละไม หาดแห่งนี้เป็นหาดขึ้นชื่อ ด้วยความสวยของโค้งอ่าว ที่มีทิวมะพร้าวปลูกอยู่เป็นแนว ในบางช่วงของหาดระดับน้ำลึก คลื่นแรง แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อบนหาดแห่งนี้ ได้แก่ ศูนย์วัฒนธรรมวัดละไมและหินตา หินยาย โขดหินรูปร่างประหลาดบริเวณอ่าวละไม ซึ่งเล่ากันว่ามีตา-ยายชาวปากพนังคู่หนึ่งเดินทางด้วยเรือใบไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อจะไปสู่ขอผู้หญิงให้กับลูกชาย แต่เมื่อเรือแล่นมาถึงแหลมละไมเกิดพายุใหญ่จนเรือล่มทำให้ตาและยายเสียชีวิต แล้วคลื่นก็ซัดขึ้นมาเกยที่หาดจนกลายเป็นหินอย่างในปัจจุบันนี้

อ้างอิง http://travel.kapook.com/view850.html
เกาะพงัน



เกาะพะงัน ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก เกาะสมุย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจาก เกาะสมุย ไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 120,625 ไร่ หรือ 168 ตารางกิโลเมตร มีประชาชนประมาณ 12,159 คน ประกอบด้วย 3 ตำบล คือ ตำบลเกาะพงัน ตำบลบ้านใต้ ตำบลเกาะเต่า รวมถึงเกาะน้อยใหญ่ คือ เกาะนางยวน เกาะแตนนอก เกาะแตนใน และ เกาะม้า โดย เกาะพะงัน เป็นหนึ่งในจำนวน 48 เกาะที่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ เมื่อ พ.ศ.2513 และเป็นอำเภอเกาะพงัน เมื่อ พ.ศ.2520

สำหรับภูมิประเทศของ เกาะพะงัน มีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่านซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว

อ้างอิง http://travel.kapook.com/view11062.html

หลวงพ่อพัฒน์ นารโท วัดใหม่พัฒนาราม จ.สุราษฎร์ธานี






         "หลวงพ่อพัฒน์ นารโท" อดีตเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองปักษ์ใต้ ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนชาวเมืองสุราษฎร์ธานี และภาคใต้มาอย่างยาวนาน
 อัตโนประวัติเกิดในสกุล พัฒนพงศ์ เมื่อวันพุธ เดือน 6 ปีจอ พ.ศ.2405 ในปีที่ 12 แห่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ณ ตลาดบ้านดอน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายฉุ้นและนางเนียม พัฒนพงศ์
เมื่อเยาว์วัยได้ศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ผ่อง แห่งวัดพระโยค ศึกษาเล่าเรียนเนื้อหาวิชาตามควรแก่วัยและตามภูมิพื้นความรู้ของผู้เป็น อาจารย์ย่างเข้าวัยหนุ่ม ได้สมรสกับนางละม่อม ต่อมาภรร ยาซึ่งตั้งครรภ์อยู่ได้คลอดบุตรออกมาเป็นผู้หญิง แต่ถึงแก่กรรมภายหลังคลอดได้ไม่นานนัก ท่านเสียใจเป็นอันมาก ทำให้ท่านตัดสินใจหันหน้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ท่านอุปสมบท เมื่ออายุได้ 25 ปี ใน พ.ศ.2430 ณ อุโบสถวัดพระโยค โดยมีพระครูสุวรรณรังษี (มี) เจ้าคณะอำเภอกาญจนดิฐและเจ้าอธิการวัดโพธิ์ ต.บ้านตลาดบน (ยึดถือตามรายงานมณฑลชุมพร ร.ศ.119) เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อกล่อม วัดโพธิ์ เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อขำ วัดบางใบไม้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "นารโท"
          หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระโยค เป็นเวลาหลายพรรษาชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ของหลวงพ่อพัฒน์ นอกจากยังความสงบเย็นเกื้อกูลความก้าวหน้าในทางธรรม สำหรับตัวท่านเองแล้ว ยังได้สร้างคุณูปการหลายประ การให้แก่พระศาสนา ราชอาณาจักรและประชาชนอีกด้วย โดยท่านได้เคยดำรงตำแหน่งและหน้าที่ต่างๆ ตลอดจนเกื้อกูลสนับสนุนการศึกษา
 หลวงพ่อพัฒน์เป็นพระสังฆาธิการที่ เป็นธุระจัดการ เอาใจใส่ในความประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ลูกวัด ตลอดจนกิจวัตรทางศาสนาต่างๆ นอกจากกิจการศาสนาแล้ว หลวงพ่อพัฒน์ยังได้ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาด้วย โดยได้มีการจัดตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นแห่งแรกของเมืองกาญจนดิฐ เมื่อประมาณ ร.ศ.116 (พ.ศ.2440)
หลวงพ่อพัฒน์ดำรงตำแหน่งทางปกครอง เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะแขวงอำเภอบ้านดอนอยู่ประมาณ 4-5 ปี แต่ด้วยความเป็นผู้ไม่ยึดติด หลวงพ่อพัฒน์จึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะแขวงอำเภอเมือง (อำเภอบ้านดอน-เดิม) เมืองไชยา และตำแหน่งอุปัชฌาย์ เพื่อออกไปธุดงควัตร

อ้างอิง  https://www.facebook.com/133036296880935/photos/a.258296034354960.1073742012.133036296880935/258296064354957/?__mref=message
เกาะเต่า

อ่าวแม่หาด
เป็นศูนย์รวมความเจริญบนเกาะเต่า เพราะแม่หาดเป็นทั้งท่าเรือที่เรือจากทุกที่จะมาจอดที่นี่ รวมถึงยังเป็นแหล่งชุมชน ร้านค้า สถานที่ราชการ เพราะอยู่ ใกล้กับท่าเรือซึ่งสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้อ่าวแม่หาดยังมีรูปปั้นเต่าสัญลักษณ์อันเป็นชื่อของเกาะเต่าอีกด้วย
หาดทรายรี
เป็นหาดขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับอ่าวแม่หาดใช้เวลาเดินเพียงแค่ 10 นาที ชายหาดมีความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ทรายสีขาวอมน้ำตาลนิดๆละเอียดนุ่ม เหมือนแป้ง ชายหาดค่อยๆ ลาดลงไปแต่ไม่ค่อยเหมาะกับเล่นน้ำมากนัก เพราะมีหินเยอะ เหมาะกับการเดินชมความงดงามของอ่าวมากกว่า ที่นี่เป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของเกาะเต่า มีที่พักบริการมากมายหลายแห่ง ผับ บาร์


สวนหิน จปร.
อยูใกล้กับหาดทรายรี มี โขดหิน รูปร่างประหลาดๆอยู่หย่อมหนึ่ง และมีรอยจารึกทาง ประวัติศาสตร์ ถึงการเสด็จประพาส เกาะเต่า ของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ด้วยการจารึก พระปรมาภิไธย จปร.ไว้ให้เป็นที่ ่ปรากฏอยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้
อ่าวโฉลกบ้านเก่า
เป็นอ่าวที่อยู่ทางใต้ของเกาะเต่าหันหน้าไปทาง เกาะพะงัน ได้รับความนิยมไม่แพ้กับหาดทรายรี เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวก และร้านค้า ผับ บาร์ พอๆ กัน และยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทดังๆ หลายแห่ง ตั้งอยู่ใกล้อ่าวโฉลกบ้านเก่า  เป็นชายหาดที่สงบและมีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำ ริมหาด


จุดชมวิวจอห์น สุวรรณ
จุดชมวิวนี้อยู่ที่สันเขาบริเวณโฉลกบ้านเก่า อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ที่มาของชื่อจอห์นสุวรรณก็คือมีเพื่อนรักคู่หนึ่ง คิดจะไปทำบ้านบนยอดเขาแถบ โฉลกบ้านเก่า พากันปีนป่ายตะกายก้อนหินก้อนโตขึ้นไปบนสันเขาลูกหนึ่ง แล้วก็ได้พบวิวบนสันเขานี้เองสามารถมองเห็น หาดสองหาดตีวงโค้งเข้าหา กันมีสันเขาและแผ่นดินกั้นกลางเหมือนกับ จุดชมวิวที่พีพีดอน จึงตั้งชื่อให้เป็นเกียรติในมิตรภาพของนายสุวรรณและมิสเตอร์จอห์นทางขึ้นเขาช่วงแรก เป็นสวนมะพร้าว สักพักหนึ่งเริ่มเป็นก้อนหิน ระยะทาง 300-400 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที สำหรับการเดิน
อ่าวจุนเจือ
เป็นอ่าวที่ค่อนข้างมีความสงบ เหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติไม่วุ่นวาย
หาดทรายแดง
ทรายของหาดทรายแดงจะออกสีแดงเล็กน้อยสมชื่อและละเอียด เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามและขึ้นชื่อที่สุดของเกาะเต่าเลยก็ว่าได้ และยัง เป็นแหล่งดำน้ำที่สำคัญของเกาะเต่าอาจมีโอกาสได้เห็นฝูงฉลามได้จากที่นี่


อ้างอิง http://www.paiduaykan.com/province/south/suratthani/kohtao.html